วันพฤหัสบดีที่ 31 มีนาคม พ.ศ. 2559

บันทึกการเรียนรู้ครั้งที่ 12
วันพุธ ที่ 30 มีนาคม 2559

บรรยากาศการเรียน
       วันนี้อาจารย์และนักศึกษาเข้าห้องเรียนกันตรงเวลา บรรยากาศการเรียนเป็นไปด้วยความเรียบร้อย เป็นกันเอง ครูยิ้มแย้มแจ่มใสนักศึกษาก็ยิ้มแย้มแจ่มใสตั้งใจเรียนฟังคำแนะนำของคุณครูเป็นอย่างดี

สาระ
1. กิจกรรมนำเสนอ
วิจัยเพิ่มเติม เรื่องทักษะพื้นฐานทางคณิตศาสตร์ของเด็กปฐมวัยที่ได้รับจากการจัดกิจกรรมศิลปสร้างสรรค์ด้วยขนมอบ (นายอารักษ์ ศักดิกุล)
        การวิจัยครั้งนี้ เปนการวิจัยกึ่งทดลอง  เพื่อเปรียบเทียบทักษะพื้นฐานทางคณิตศาสตรของ เด็กปฐมวัยกอนและหลังการทํากิจกรรมศิลปสรางสรรคดวยขนมอบ ทั้งนี้เพื่อเปนประโยชน และเปน แนวทางสําหรับครู ผูปกครอง และผูที่เกี่ยวของกับการจัดการศึกษาปฐมวัย ในการพิจาณาเลือกกิจกรรม ที่จะชวยสงเสริมทักษะพื้นฐานทางคณิตศาสตรแกเด็กปฐมวัยไดอยางเหมาะสม ซึ่งมีลําดับขั้นตอน ของการวิจัยและผลของการวิจัย โดยสรุป ดังนี้
 ความมุงหมายของการวิจัย 
       เพื่อเปรียบเทียบทักษะพื้นฐานทางคณิตศาสตรของเด็กปฐมวัย กอนและหลังการจัดกิจกรรม ศิลปสรางสรรคดวยขนมอบ ได้แก่ การสังเกต เปรียบเทียบ จำแนก จัดหมวดหมู่
กลุมตัวอยาง   
       กลุมตัวอยางที่ใชในการวิจัยครั้งนี้ เปนเด็กปฐมวัยชาย-หญิง ที่มีอายุ 3 – 4 ป ซึ่งกําลัง ศึกษาอยูในชั้นอนุบาลปที่ 1/3 ภาคเรียนที่ 2 ปการศึกษา 2551 ของโรงเรียนอนุบาลกุกไก  สังกัด สํานักงานคณะกรรมการการศึกษาเอกชน  จํานวน  20 คน 
       กิจกรรมศิลปสรางสรรคดวยขนมอบเปนกิจกรรมที่ใชขนมอบประเภทตางๆ ในการทํากิจกรรม เชน ขนมปง คุกกี้ เคก ฯลฯ ซึ่งในการทํากิจกรรมเด็กสามารถเลือกทําไดตามความสามารถ และ ความสนใจ โดยมีวัตถุประสงค เพื่อใหเด็กไดเกิดการเรียนรู จากการใชประสาทสัมผัสในการทํากิจกรรม ศิลปะสรางสรรคดวยขนมอบ ทั้งนี้ยังฝกฝนเรื่องการสังเกตและการจําแนก การเปรียบเทียบ การจัด หมวดหมู ซึ่งผูวิจัยสรางขึ้นโดยยึดหลักของการทํากิจกรรมศิลปสรางสรรค ตามคูมือหลักสูตรการศึกษา ปฐมวัย 2546 เอกสารและงานวิจัยที่เกี่ยวของกับการจัดกิจกรรมศิลปสรางสรรค ตลอดจนการยึด ตามความเหมาะสมสอดคลองกับพัฒนาการและความสนใจของเด็กเปนหลัก
แผนการสอน
ชื่อกิจกรรม  ขนมปงแผนแตงหนา  
จุดประสงค
1. เพื่อใหนักเรียนไดพัฒนาการใชกลามเนื้อเล็กและการประสานสัมพันธระหวางมือกับตา  
2. เพื่อใหนักเรียนไดฝกการรับรูประสาทสัมผัส  
3. เพื่อใหนักเรียนไดรูจักสีแดง  สีขาว  สีเขียว  สีชมพู  
4. เพื่อใหนักเรียนไดฝกทักษะการสังเกตและการจําแนก  เปรียบเทียบ  จัดหมวดหมู  
5. เพื่อใหนักเรียนไดสงเสริมการแสดงออก  
6. เพื่อใหนักเรียนเกิดความสนุกสนานเพลิดเพลิน
เนื้อหา    ขนมปงแผนแตงหนา
กิจกรรมการเรียนรู  
ขั้นนํา  (กระตุ้นเด็ก)
1. นักเรียนและครูสนทนารวมกันคิดหาคําตอบจากปริศนาคําทาย อะไรเอย เปนแผน  สีขาว  นิยมทานคูกับแยม    
2. นักเรียนและครูสนทนารวมกัน  ดังนี้     
     2.1 ขนมปงมีลักษณะอยางไร  มีสีอะไร     
     2.2 ขนมปงมีสีอะไร  รสชาติเปนอยางไร  มีใครเคยทานบาง     
     2.3 นักเรียนคิดวาขนมปงทํามาจากอะไร     
     2.4 นักเรียนคิดวาขนมปงมีประโยชนไหม  และมีประโยชนอยางไร  
ขั้นสอน   
1. เด็กเลือกหยิบอุปกรณตามความสนใจของตนเอง  
 2. เด็กทํากิจกรรมตามความสนใจ โดยการนําขนมปงแผนรูปทรงตางๆ แยมผลไม  เกล็ด ช็อกโกแลต มาโรยหนา ทา วาด เขียน เพื่อสรางชิ้นงานตามความคิดและจินตนาการของตนเอง   
3. เมื่อทํากิจกรรมเสร็จแลวใหนําชิ้นงานวางบนถาดรองไปจัดรวมกันไวที่หนาชั้นเรียน   
4. เด็กชวยกันเก็บของ  ทําความสะอาดใหเรียบรอย
ขั้นสรุป   
1. นักเรียนนําเสนอผลงานของตนเองและสนทนารวมกับครู  ดังนี้    
     1.1 นักเรียนใชขนมปงรูปทรงใดบางมาทํากิจกรรม    
     1.2 ในชิ้นงานของนักเรียนมีอะไรที่เหมือนกัน  และอะไรที่ตางกัน  ตางกันอยางไร    
     1.3 ขนมปงของนักเรียนมีอะไรซอนอยูขางใน    
     1.4 นักเรียนคิดวาระหวางแยมผลไม กับเกล็ดช็อกโกแลต และขนมปง ตางกันหรือ เหมือนกันอยางไรบาง  
สื่อการเรียน  
1. ขนมปงแผนรูป  
2. แยมผลไมบรรจุในถุง 3สี  คือ  แยมสม  แยมสตอเบอรี่  แยมบลูเบอรรี่  แยมสัปปะรด 
3. เกล็ดช็อกโกแลต  
4. ถาดรองสําหรับวางชิ้นงาน  
5. ผาพลาสติกปูโตะ  
6. ถาดสําหรับใสขนม  
การประเมินผล  
1. สังเกตการทํากิจกรรมและการสนทนา  
2. สังเกตพฤติกรรมขณะเด็กทํากิจกรรม   



2. กิจกรรมการเรียนการสอน
นำเสนอแผนการจัดประสบการณ์แต่ละหน่วยที่ทุกกลุ่มเตรียมมา

หน่วย ยานพาหนะ

        สอนเรื่อง ประเภทของยานพาหนะ มี 3 ประเภท คือ ทางอากาศ ทางบก และทางน้ำ ขั้นนำเริ่มด้วยการถามประสบการณ์เดิมว่า "ตอนเช้าเด็กๆมาโรงเรียนกันด้วยยานพาหนะอะไรบ้าง"  ขั้นสอน ครูแนะนำอุปกรณื คือ ยานพาหนะที่อยู่ในกล่องและถามเด็กๆว่า ยานพาหนะประเภทนี้ควรจะอยู่ทางน้ำ ทางบก หรือทางอากาศ ให้เด็กๆออกมานำยานพาหนะไปติดทีละคน เช่น บอลลูน นไปติดบนฟ้า เป็นต้น
        กลุ่มนี้อาจารย์ให้คำแนะนำว่า กล่องที่ใช้ใส่ยานพาหนะให้ลองใช้ผ้าคลุม สมมติเป็นโรงเก็บยานพาหนะ และควรสอนไปอย่างเป็นขั้นตอน จากง่ายๆไปหายาก ไม่ควรมองข้ามจุดเล็กๆที่เราสามารถเสริมประสบการณ์เกี่ยวกับคณิตศาสตร์ได้ เช่น นำยานพาหนะออกมา แล้วนำตัวเลขฮินดูอารบิคไปติดกำกับไว้ เป็นต้น

หน่วย ของเล่นของใช้

           สอนเรื่องประเภทของเล่นของใช้ คือ มี 2 ประเภทได้แก่ ของเล่น และของใช้ ขั้นนำ เริ่มด้วยเพลงเก็บของ และเชื่อมโยงด้วยคำถาม คือ ถามเด็กๆว่า เวลาที่เด็กเล่นหรือใช้ของใช้ เด็กๆเก็บเข้าที่กันหรือเปล่า แล้วของเล่นของใช้ที่เด็กๆรู้จักหรือเคยใช้มีอะไรบ้าง (ถามประสบการณ์เดิม) ขั้นสอน สอนด้วยการที่ครูนำสื่อองเล่นของใช้ของจริงมาให้เด็กดู และบอกชื่อของชิ้นนั้น รูแจกของเล่นของใช้ให้เด็กคนละ 1 ชิ้น โดยให้เด็กนับไปด้วยเมื่อครูแจกคนที่ 1 ให้เด็กๆนับหนึ่ง เมื่อครูแจกคนที่สองให้เด็กๆนับสอง ไปจนถึงคนสุดท้าย แล้วครูสรุปว่าของเล่นของใช้มีทั้งหมด 15 ชิ้น และครูให้เด็กสำรวจของเล่นของใช้ที่ตนเองได้ และให้เด็กๆแยกประเภทว่าของที่ตนเองได้เป็นของเล่นหรือของใช้ แล้วให้เด็กนำมาวางไว้ที่ตะกร้าหน้าห้องให้ถูกต้อง ขั้นสรุป คือให้เด็กออกมาเสนอว่าของเล่นที่ตนเองได้เป็นของเล่นหรือของใช้ และครูพูดสรุปว่าของเล่นของใช้มีกี่ประเภท 
         กลุ่มของดิฉัน อาจารย์ให้คำแนะนำว่า เพลงที่นำมาใช้ควรเป็นเพลงอื่น เพราะเพลงนี้น่าจะไปอยู่ในหัวข้อการดูแลรักษา และต้องมีการสอนอย่างเป็นลำดับขั้นตอน สื่อที่นำมาให้เด็กดู ควรมีเกณฑ์บอก คือนิยามของคำว่าของใช้ ของใช้คือสิ่งที่เรานำมาใช้แล้วมีประโยชน์ต่อการดำรงชีวิต ส่วนสิ่งที่นำมาใช้แล้วไม่เกี่ยวกับการดำรงชีวิตก็ให้จัดอยู่ในกลุ่มของเล่น เป็นต้น และภาชนะที่ใช้ใส่ของเล่นของใช้ควรเป็นตะกร้าไม่ควรเป็นถุงกระดาษ ถ้าหากพูดว่า วันนี้ครูไปช้อปปิ้งมาได้ของมาเยอะเเยะเลยเด็กๆลองทายสิว่าในถุงนี้ครูซื้ออะไรมาบ้างน้า อาจใช้เป็นถุงกระดาษได้ (ขึ้นอยู่กับสถานการณ์)

หน่วย ผลไม้

               สอนเรื่องชนิดของผลไม้ ที่ยกมาวันนี้คือผลไม้ 2 ชนิด มะยงชิด กับองุ่น ครูพูดคุยถามเด็กเกี่ยวกับผลไม้ที่เด็กๆรู้จัก และให้ลองสังเกตผลไม้แต่ละชนิดว่ามีลักษณะอย่างไร ให้สังเกต รูปทรง กลิ่น สี ส่วนประกอบ และรสชาติ ของผลไม้ และสรุปโดยการให้เด็กๆช่วยกันตอบว่าผลไม้ 2 ชนิดมีลักษณะเป็นอย่างไรบ้าง
               อาจารย์แนะนำว่า การสอนต้องเป็นไปตามลำดับขั้นตอนเป็นแพทเทิล เช่น ครูให้เด็กสังเกตภายนอกก่อน รูปทรง สี ขนาด แล้วค่อยดูภายในคือส่วนประกอบ อาจจะผ่าให้ดูแล้วตัดเป็นชิ้นเล็กๆให้เด็กดมกลิ่น และชิมรส ขั้นสรุปครูควรเป็นผู้สรุปว่าผลไม้ทั้งสองชนิดมีอะไรที่แตกต่างกันบ้าง และลักษณะของผลไม้เป็นอย่างไร
หน่วย กล้วย

           สอนเรื่องชนิดของกล้วย ที่ยกมาวันนี้คือ กล้วย 2 ชนิด ได้แก่ กล้วยหอมทองและกล้วยน้ำว้า ขั้นนำโดยเพลงกล้วย ครูนำกล้วยชนิดที่ 1 ให้เด็กสังเกตดู แล้วถามเด็กว่ามีลักษณะอย่างไร แล้วครูเติมคำลงในช่องวิเคราะห์ข้อมูล ต่อมา ครูนำ กล้วยชนิดที่ 2 ขึ้นมาให้เด็กสังเกตดู แล้วถามเด็กๆว่ามีลักษณะอย่างไรพร้อมเติมคำลงในช่องวิเคราะห์ข้อมูล ขั้นสรุป ครูสรุปว่ากล้วยมีลักษณะ สี ขนาด รูปทรง รสชาติ กลิ่น ส่วนประกอบ เป็นอย่างไร
           ครูเสนอว่า ตารางวิเคราะห์ควรเรียงลำดับเป็นขั้นตอน คือสี  รูปทรง ส่วนประกอบ กลิ่น และรสชาติ แล้วค่อยพูดถึงเรื่องขนาดเมื่อนำกล้วยทั้งสองชูขึ้นมาให้เด็กดู เพื่อให้เด็กเปรียบเทียบเล็กกว่า ใหญ่กว่า เป็นต้น สอนจากง่ายไปยากเพราะเป็นวิธีการเรียนรู้ของเด็ก
          หลังจากทุกกลุ่มนำเสนอครบเรียบร้อยแล้วอาจารย์ให้นักศึกษาอธิบายหัวข้อต่อไป คือ วันพุธ หัวข้อ การดูแลรักษาของเล่นของใช้ วันพฤหัส หัวข้อ ประโยชน์
แผนเรื่อง การดูแลรักษา
ขั้นนำ 
เริ่มต้นด้วยแผ่นชาร์จเพลง  เก็บของ พูดคุยสนทนากับเด็ก  
ขั้นสอน  
ครูเตรียมอุปกรณ์ของเล่นของใช้วางคละกัน  ถามเด็กๆว่าจะมีวิธีเก็บรักษาของเล่นของใช้กันแบบไหนกันบ้าง จากนั้นก็จะแยกประเภทของเล่นของใช้  เช่น  ของใช้เป็นจาน  ช้อน  แก้ว  เราก็ต้องทำความสะอาดด้วยการล้างแล้วก็เอามาคว่ำให้แห้งแล้วถึงเก็บเอามาจัดวางให้เรียบร้อย  ส่วนของเล่นเราก็เอามาจัดวางให้เรียบร้อยเวลาที่เราเล่นเสร็จเราควรเอามาทำความสะอาดและเอามาผ้าเช็ดอย่างน้อยอาทิตย์ละครั้ง
ขั้นสรุป  
ครูพูดสรุปวิธีการดูแลรักษาของเล่นของใช้ในวันนี้เราทำอะไรกันบ้าง  สรุปว่าความแตกต่างของใช้เราต้องทำความสะอาดทุกครั้งหลังใช้  ส่วนของเล่นเมื่อเราเล่นไปนานๆอาจจะสกปรกหรือมีฝุ่นเกาะเราอาจจะนำออกมาทำความสะอาดอาทิตย์ละครั้ง


ทักษะ
1. ทักษะการฟัง
2. ทักษะการสังเกต
3. ทักษะการคิดวิเคราะห์
4. ทักษะการรวบรวมข้อมูล
5. ทักษะในการเป็นผู้สอน (เป็นผู้สอนที่ดี)
6. ทักษะในการคิดต่อยอดองค์ความรู้

การนำไปประยุกต์ใช้
       ได้รับความรู้ในเรื่องของเนื้อหา หน่วยที่เราจะต้องใช้จัดประสบการณ์ให้แก่เด็ก ไม่ใช่เพียงรู้แต่หน่วยของกลุ่มตนเองเองเท่านั้น แต่ยังได้เรียนรู้หน่วยอื่นๆของเพื่อนที่นำมาเสนอ เพื่อเป็นแนวทางให้เรานำไปประยุกต์ทำแผนการสอนได้เมื่อเราจัดกิจกรรมในหน่วยนั้นๆ และวิธีการสอนต้องสอนเด็กจากสิ่งง่ายๆก่อน สิ่งไหนจุดใดที่เราสามารถเสริมประสบการณ์ให้กับเด็กได้เราก็ไม่ควรพลาดที่จะเติมเข้าไป เพราะจะทำให้เด็กได้เรียนรู้อย่างหลากหลาย และเป็นผลดีต่อตัวครูที่จะได้เรียนรู้ไปด้วย

เทคนิคการสอนของครู
1. ให้นักศึกษานำเสนอความรู้สู่เพื่อนๆ
2. จำลองสถานการณ์จริง
3. บรรยาย อธิบายวิธีการ เนื้อหาอย่างละเอียด
4. ให้เทคนิควิธีการใหม่ๆเพื่อให้นักศึกษานำไปใช้

ประเมินครูผู้สอน
           ครูละเอียดมากในวันนี้ เพราะเป็นสิ่งสำคัญที่นักศึกษาต้องเรียนรู้ ครูอธิบาย ยกตัวอย่าง ให้ข้อเสนอแนะเพื่อให้นักศึกษานำไปปรับปรุงแก้ไข เสริมความรู้ใหม่ๆพร้อมทั้งสอดแทรกคุณธรรมจริยธรรมในเรื่องของการเป็นผู้ฟังที่ดีให้แก่นักศึกษาอยู่เสมอ


ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น